สวี่เส้าหนานคิดไม่ถึงเลยว่ายัยสาวอัปลักษณ์ตรงหน้าจะกล้าลงมือกับเขา เขาไม่ทันได้ตั้งตัว และถูกเตะเข้าที่กลางน่องทันที ซี๊ด ! สวี่เส้าหนานสูดหายใจเฮือกอย่างเจ็บปวด เขากอดขาข้างนั้นของตัวเองแล้วกระโดดเด้งขึ้นมาทันที เขามองไปที่เซี่ยซีหว่านอย่างตกตะลึง แล้วพูดว่า “ยัยสาวอัปลักษณ์ เธอกล้าตีฉันเหรอ นี่เธอบ้าไปแล้วเหรอ เธอรู้ไหมว่านายน้อยเป็นใคร?”“ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นใคร และก็ไม่สนใจด้วย หลีกไป!” ดวงตาสดใสของเซี่ยซีหว่านมองเขาอย่างเย็นชา เธอก้าวเท้าแล้วเดินจากไป ยัยสาวอัปลักษณ์คนนี้ ช่างโอหังเสียจริง ! สวี่เส้าหนานไม่ยอมแพ้ เขาจึงเอื้อมมือไปคว้าเธอ แต่ทันใดนั้นเองร่างสูงโปร่งที่ดูดีก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็พุ่งตรงเข้ามาบังเซี่ยซีหว่านเอาไว้ด้านหลังของตัวเองทันที แล้วพูดว่า “คุณชายสวี่ คุณเองก็มาที่เมืองไห่เฉิงด้วยเหรอ ?”เซี่ยซีหว่านเบี่ยงตัวหลบ คนที่กำลังบังเธออยู่คือ ลู่จื่อเซียน ลู่จื่อเซียนมาแล้ว ! เมื่อลู่จื่อเซียนปรากฏตัวขึ้น สวี่เส้าหนานจึงหยุดชะงักลงในทันทีแล้วพูดว่า “คุณชายรองลู่ บังเอิญจัง คุณก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”สายตาที่ดูมีเลศนัยของสวี่เส้าหนานมองไปที่ลู่จื่อเซียน
เซี่ยซีหว่านรู้ดีว่าตัวเองกําลังต่อต้านสวรรค์ ตํานานเรื่องการเอาชีวิตแลกชีวิตเหล่านั้นอาจไม่เป็นความจริง เธอไม่เชื่อทฤษฎีเหนือธรรมชาติ แต่เชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้น แต่พิษของดอกลำโพงนั้นรุนแรงมาก การทดสอบพิษครั้งแรกก็ได้กัดกร่อนเลือดอันมีค่าของเธอไปแล้ว เป็นพลังเงียบที่ค่อนข้างรุนแรงมาก การทดสอบพิษครั้งที่สองจะเป็นอย่างไร เธอเองก็ไม่มีความมั่นใจอะไรเลย เธอไม่รู้ว่าลู่จื่อเซียนเคยได้รับพิษดอกลำโพงต้นสุดท้ายมาแล้ว เขาเป็นนักวิชาการแห่งมหานครเอมพีเรียล และมีทีมวิจัยแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของตัวเองภายใต้การบัญชาของเขา ตอนนี้เขาบอกเธออย่างชัดเจนว่าพิษดอกลำโพงจะยังคงอยู่ในร่างกายของเธอ และคนที่ถูกพิษของมันจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ความจริงแล้วนี่คือเกมแห่งความเป็นความตาย เธอกับลู่หานถิงสามารถมีชีวิตอยู่ได้แค่คนเดียว ! ลู่จื่อเซียนลุกขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณลองคิดทบทวนดูให้ดี ๆ ก็แล้วกันนะครับ”เมื่อเขาพูดจบก็เดินจากไปทันที “คุณชายรองลู่คะ” เซี่ยซีหว่านรีบเข้าไปคว้าแขนเสื้อของลู่จื่อเซียนไว้ แล้วพูดว่า “คุณอย่าบอกเรื่องนี้กับพี่ชายคุณนะคะ นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับพี่ชายคุณ เร
เซี่ยเหยียนเหยียนหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาเปิดรูปภาพนั้นขึ้นแล้วยื่นส่งออกมาต่อหน้าทุกคน ทุกคนกลั้นหายใจมองไปที่รูปอย่างใจจดจ่อ พวกเขาเพ่งมองอย่างตื่นเต้นและระทึกว่าคุณนายลู่ผู้นี้จะสวมเขาให้ประธานลู่อย่างไร แต่ยังไม่ทันได้เห็นอะไร จู่ ๆ ก็มีมือขาวเรียวเล็กยื่นโผล่มาจากด้านหลัง แล้วแย่งเอาโทรศัพท์ในมือของเซี่ยเหยียนเหยียนไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าเซี่ยเหยียนเหยียนตกใจจนชะงักไปแล้ว ใครจะคิดว่าเซี่ยซีหว่านจะขโมยโทรศัพท์ของเธอไปท่ามกลางสายตาของทุกคนที่กำลังมองมา ภาพนั้นเป็นถึงไพ่คิงของเธอเลยนะ !“เซี่ยซีหว่าน เธอทําอะไรน่ะ เอาโทรศัพท์คืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ !” เซี่ยเหยียนเหยียนอยากจะแย่งมันกลับมาเดี๋ยวนั้นแต่เซี่ยซีหว่านยื่นมือออกไป และโทรศัพท์ก็ถูกโยนลงไปในสระบัวนอกหน้าต่างทันที เสียงน้ำกระจายดังขึ้นมา น้ำในสระบัวสาดกระเซ็นไปไม่น้อย แต่ไม่นานก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง บ้าจริง ! การกระทําอันรวดเร็วของเซี่ยซีหว่านนั้นว่องไวยิ่งกว่าเสือ ทุกคนถึงกับอึ้งไปเลย ใครจะคิดว่าเธอจะขโมยโทรศัพท์ของเซี่ยเหยียนเหยียนไป ทั้งยังโยนตรงดิ่งลงไปในก้นสระอีกดีล่ะคราวนี้ไม่มีรูปแล้วสีหน้าของเ
ทุกคนล้วนเป็นผู้อาวุโสทั้งนั้น แต่กลับมีชายหนุ่มคนหนึ่งกลับโผล่เข้ามา หลี่เหวินฉิงและผู้อาวุโสเหล่านี้จึงแสดงความไม่พอใจ ก็เห็นกันอยู่ว่าทุกคนล้วนเป็นนักวิชาการที่มีคุณวุฒิที่เสมอกัน คนหนุ่มอย่างเขามีสิทธิ์อะไร? แต่งานอภิปรายทางวิชาการตลอดสามปี ลู่จื่อเซียนได้นําเอาวิทยาการอันล้ำหน้าและวิทยานิพนธ์ทางการแพทย์ที่น่าทึ่งของตัวเองมาให้ความรู้แก่ผู้อาวุโสเหล่านี้เป็นอย่างดี ผู้อาวุโสเหล่านี้จึงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เนื่องจากพวกเขายังมีกำแพงกับคนหนุ่มสาวอยู่ดี พวกเขารู้สึกไม่ยอมรับ แต่ถึงไม่ยอมรับก็ทําอะไรไม่ได้งานอภิปรายทางวิชาการในปีนี้ทุกคนไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่มลู่จื่อเซียนผู้นี้เลย หลายวันที่มาร่วมงานผู้อาวุโสเหล่านี้จึงรู้สึกเสียดายเป็นอย่งมาก เมื่ออธิการบดีหลี่เหวินฉิงพูดจบ ทุกคนในเหตุการณ์ก็ตกใจเฮือกใหญ่ อะ...อะไรนะ? คุณชายรองลู่แห่งตระกูลลู่ ณ มหานครเอมพีเรียล ลู่จื่อเซียนนักวิชาการผู้เก่งกาจที่อายุน้อยที่สุดในวงการแพทย์ที่เขาลือกันคนนั้นน่ะเหรอ? แน่นอนว่านักข่าวเหล่านี้ต่างตกตะลึงเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกพวกเขาคิดว่าผู้ชายคนนี้หล่อเหลามาก บุคลิกก็ดูสะอาดสะอ้าน แต่พวกเข
เซี่ยซีหว่านจับประเด็นสําคัญได้แล้วจึงพูดว่า “ท่านอธิการบดีคะ คุณบอกว่าคุณท่านลี่เป็นพี่น้องที่ดีกับคุณย่าของฉันเหรอคะ?” “ใช่แล้วล่ะ คุณท่านลี่เป็นพี่น้องที่ดีกับคุณย่าของคุณ และจื่อเซียนก็เป็นน้องชายแท้ ๆ ของประธานลู่ ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ซีหว่าน คุณคิดว่าคุณควรจะแสดงฝีมือออกมาหน่อยไหมล่ะ?”หลี่เหวินฉิงโน้มน้าวให้สองคนนี้ร่วมมือกัน ตอนนี้แม้แต่ผู้อาวุโสเหล่านั้นก็ยังไม่มีความมั่นใจในการผ่าตัดของคุณท่านลี่ หากสองคนนี้ร่วมมือกัน นี่คงจะเป็นการผ่าตัดครั้งยิ่งใหญ่จริง ๆ และแน่นอนว่าทุกอย่างจะต้องประสบความสำเร็จเซี่ยซีหว่านยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านอธิการบดีคะ ฉันเป็นหมอ ฉันยินดีอยู่แล้วค่ะ อีกทั้งฉันบอกคุณท่านไปแล้วว่าฉันจะทําทุกอย่างเพื่อช่วยท่านค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยมมากเลย การผ่าตัดของคุณท่านลี่ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมกำหนดการดำเนินการในอีกสองวันนี้เถอะ พวกเราต้องตัดสินใจเรื่องแผนการผ่าตัดให้เร็วที่สุด ผมมั่นใจในตัวพวกคุณมาก !”ลู่จื่อเซียนมองเซี่ยซีหว่านแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน ถ้าคุณมีเรื่องอะไรก็โทรหาผมแล้วกันนะครับ” ร่างสูงโปร่งและร
เซี่ยซีหว่านรู้สึกเสียใจมากที่แม่ของเธอจากไปตั้งแต่ตอนที่เธออายุ 9 ขวบ เธอจึงไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์จากแม่ของเธอ อีกทั้งเธอยังไม่มีโอกาสพูดคุยและปรึกษา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับทักษะทางการแพทย์ของแม่อย่างใกล้ชิดทักษะทางการแพทย์ของแม่เปรียบดั่งหีบสมบัติ มันทั้งลึกลับและล้ำค่า หากเปรียบความสามารถกันแล้ว ความรู้ของเธอยังน้อยนิดนักดวงตาสดใสของเซี่ยซีหว่านเต็มไปด้วยความแน่วแน่ เธอพูดว่า “คราวหน้า ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะคะ!”อธิการบดีหลี่เหวินชิงมองเซี่ยซีหว่านด้วยความเอ็นดู เขาชอบเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เพียงเพราะทักษะทางการแพทย์ของเธอเท่านั้น แต่เพราะความแน่วแน่และความกล้าหาญของเธอด้วยเซี่ยซีหว่านยืนขึ้น และพูดว่า “ขอบคุณท่านอธิการบดีมากนะคะที่ช่วยชีวิตฉันในครั้งนี้ อีกอย่างฉันกับลู่จื่อเซียนเป็นแค่เพื่อนกันค่ะ คราวหลังอย่าพูดแบบนั้นอีกนะคะ ถ้าคุณชายลู่ของฉันได้ยิน ฉันก็คงจะช่วยคุณไม่ได้อีกแล้ว”อธิการบดีหลี่เหวินชิงรู้สึกกลัวขึ้นมาทันใด เขาจึงอุทานออกมาด้วยความตกใจกลัวว่า “ได้สิ”“ฉันขอตัวก่อนนะคะท่านอธิการบดี ลาก่อนค่ะ”เซี่ยซีหว่านเดินออกมา อธิการบดีหลี่เหวินช
ลู่หานถิงไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่กัดริมฝีปากบางของเขา แล้วออกจากสวนโหย่วหลานไปอย่างเงียบ ๆ ในค่ำคืนอันหนาวเหน็บร่างสูงเดินออกไปข้างนอก และหายตัวไปอย่างรวดเร็วลู่อินอินถอนสายตาของเธอแล้วหันไปทางคุณท่านลู่ และพูดว่า “แม่คะ หนูไม่เข้าใจเลยว่าซีหว่านมาแต่งงานกับหานถิงได้ยังไงคะ หนูไปสืบมาแล้วพบว่า ซีหว่านแต่งงานแทนพี่สาวของเธอใช่ไหมคะ ตอนนั้นทั่วทั้งเมืองไห่เฉิงต่างก็รู้ว่าเซี่ยซีหว่านเป็นคนบ้านนอกคอกนาที่เพิ่งกลับมาจากชนบท แม่คะ หนูรู้จักแม่ดี แม่อยู่ในตระกูลลู่มาหลายสิบปีแล้ว และแม่ก็เอ็นดูหานถิงมาก เรื่องงานแต่งงานของเขาเป็นเรื่องที่ใหญ่โต แม่จะต้องเป็นคนจัดการเรื่องนี้อย่างแน่นอน แม่จะปล่อยให้คนบ้านนอกคอกนาแต่งงานกับหานถิงอย่างนั้นเหรอคะ? แม่มีอะไรปิดบังหนูอยู่หรือเปล่าคะ?”ลู่อินอินสนิทกับคุณท่านลู่มาก เธอรู้ดีว่ามารดาของเธอมีความคิดที่ละเอียดรอบคอบ อีกทั้งยังมุ่งมั่นมากถึงเพียงใด เธอได้ส่งคนไปสืบเรืองการแต่งงานของลู่หานถิงและเซี่ยซีหว่านแล้ว การแต่งงานในครั้งนี้น่าสงสัยมากจนเธอทนไม่ไหวจึงตั้งใจมาที่นี่ในวันนี้เพื่อถามความจริงจากหญิงชราคุณท่านลู่หั่นสเต็กบนจานด้วยท่วงท่าสง่างามโ
รูปนั้นถูกถ่ายในห้องยา ในรูปเซี่ยซีหว่านกำลังเอื้อมมือไปคว้าชายเสื้อของลู่จื่อเซียน แสงที่นุ่มนวลถูกส่องลงมาบนเรื่องร่างของชายหญิงที่มีพรสวรรค์ทั้งสองคนราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด ไม่ได้มีความรู้สึกว่าทั้งสองคนเป็นชู้กันเลย รู้สึกเพียงว่าทั้งสองคนเหมาะสมกันมากมีการรีโพสต์และแสดงความคิดเห็นบนเวยป๋อจำนวนมากจนขึ้นเป็นการค้นหาสูงสุด“เซี่ยซีหว่านเจ๋งจริง ๆ !”“นักวิชาการจากมหานครเอมพีเรียลลู่จื่อเซียนจู่ ๆ ก็มายังเมืองไห่เฉิง คนสองคนที่ร่วมมือกันทำการผ่าตัดบนท้องถนนจนทำให้ผู้คนตกตะลึงไปทั่วทั้งโลกคือเซี่ยซีหว่านและนักวิชาการลู่ นี่มันโชคชะตาฟ้าลิขิตชัด ๆ ”“แม้ว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นคุณนายลู่แล้วก็ตาม แต่ฉันรู้สึกว่า...นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้หญิงที่มีพรสวรรค์เช่นนี้นะ?”“ฉันขอคาราวะ!”ลู่หานถิงวางโทรศัพท์ลง ใบหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา แต่ทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่าท่านประธานของพวกเขากำลังไม่มีความสุข รังสีความเยือกเย็นแผ่ออกมาจากตัวเขา ซึ่งทำให้ผู้คนต่างรู้สึกขนหัวลุกทุกคนรู้สึกกลัวมากจนไม่กล้าหายใจเสียงดัง พวกเขากลัวว่าจะไปกระตุ้นความโกรธของท่านประธาน และทำให้ตัวเองเด
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ